วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

::มาร่วมปลูกป่ากัน::


ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วม ทำบุญปลูกต้นไม้ เพื่อมอบเป็นพื้นที่ป่า ให้กับวัด ชื่อวัดบ้านสถานี ตั้งอยู่ที่บ้านสถานี ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ ห้างฉัตร พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ ครึ่ง จะปลูกสวนป่าไผ่ 1 ไร่ และปลูกต้นไม้อื่นๆ ภายในบริเวณวัด

โดยกลุ่มนักศึกษา ในจังหวัดลำปาง สถาบันต่างๆ เช่น มสธ., ธรรมศาสตร์ , ราชภัฎ , ราชมงคล , โยนก รวมพลังบำเพ็ญประโยชน์ปลูกต้นไม้ เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ กำหนดการ วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 21-22 พ.ค. 2554 สนใจโทรศัพท์ขอเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 054-829811-4 (มสธ.ลำปาง)


ที่ตั้งวัดบ้านสถานี เลขที่ 53 บ้านสถานี หมู่ 4 ต. ห้างฉัตร อ. ห้างฉัตร จ. ลำปาง. เจ้าอาวาสชื่อ…พระมงคล มงคโล…
ระวัติความเป็นมาวัดสถานี วัดสถานี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2460นายตรวจสิน และผู้ใหญ่เป็ง ไชยเตกุล เป็นผู้ริเริ่มโดยนิมนต์ พระวงศ์ คันธะวงศ์โส บ้านสันหนองบงมาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ปี 2501 ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จังหวัดลำพูน พร้อมด้วยพระภิกษุติดตาม 3 รูป ได้มาสร้างพระวิหาร ศาลาครัวทาน และกุฏิ ปี 2510 หลวงตาคำ ปิยะสีโล ได้สร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ เป็นศาสนสมบัติของวัดจนครบถ้วนทุกอย่าง ตามที่เห็นทุกวันนี้ ส่วนพระเจดีย์สร้าง ปี พ.ศ. 2530 ถวายเป็นราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา หลวงพ่อตาคำ ปิยะสีโล พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน อาจารย์ กรรมการวัด และชาวบ้านได้ร่วมใจสร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัว ในนามว่าเจดีย์ ร.9 โดยมีท่านนายอำเภอห้างฉัตร นายฉลอง นันทะพันธ์ เป็นประธาน บรรจุสารีริกธาตุ และยกฉัตร บนพระธาตุเจดีย์ สร้างเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2536 แล้วเสร็จและถวายเป็นพระราชกุศล 5 ธันวาคม 2536







สถานีรถไฟเล็กๆ แห่งหนึ่งของลำปาง ชื่อเรียกอาจคุ้นหู'ห้างฉัตร' แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักมันจริงๆอาจารย์เล่าให้ฟังว่า เดิมที่นั้นรถไฟสายเหนือจะสิ้นสุดลงที่แค่นครลำปางส่วนสถานีห้างฉัตรจัดเป็นสถานีขยายเพิ่มเติมในยุคหลังๆ เหตุที่สถานีรถไฟสายเหนือมาหยุดที่ลำปาง เพราะในยุคสมัยนั้นยังเป็นยุคอุตสาหกรรมป่าไม้กำลังเฟื่องฟู การทำป่าไม้ในเขตลำปางจัดว่าสร้างรายได้มหาศาลให้กับพื้นที่แถบนี้ สถานีนครลำปางจึงจัดได้ว่าเป็นดังฮับของคนที่จะมาทำมาค้าไม้ที่ย่านนี้แถบนี้ก็ไม่ปาน สถานีห้างฉัตร เป็นอีกหนึ่งสถานีที่สร้างเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมป่าไม้มีความเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น ความทรงจำของคนแถบนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้คนผ่านทางจำนวนมากที่เดินทางมากับขบวนรถไฟและก้าวขาลงมาที่สถานีนี้มาแต่ครั้งก่อนยาวนาน ปัจจุบันสถานีห้างฉัตรเป็นสถานีชั้นสามที่มีรถไฟจอดเพียงวันละสองขบวนความเงียบเหงาบางอย่างจึงค่อยๆ คลืบคลานมายังสถานีแห่งนี้อย่างช้าๆสถานีรถไฟ ถ้าพูดกันในความหมายมันอาจหมายถึง 'วิถีชีวิต'แต่ถ้าพูดในแง่ของความเป็นจริง ที่นี่เปรียบได้กับด่านผ่านทางที่ช่วยให้ระบบรถไฟมีความปลอดภัยมาจวบจนทุกวันนี้ระบบห่วงผ่านทาง คือความหมายของความปลอยภัยที่ว่ารถไฟทุกขบวนที่ผ่านสถานีแห่งนี้ จะต้องทำการรับและส่งห่วงผ่านสะดวก เพื่อทำการเช็คความแน่ใจว่า ระยะทางต่อไปจะปลอดภัยสักแค่ไหนกัน ลูกแก้วที่ซ่อนอยู่ในห่วงนั้นคือสัญญาณที่บ่งบอกและบ่งชี้ให้คนขับรถไฟได้รับรู้ว่า ข้างหน้าเป็นเช่นไร ปัจจุบันได้ข่าวแว่วๆ มาว่า การรถไฟฯ จะทำการยกเลิกระบบความปลอดภัยนี้ มาเป็นแบบดิจิตอล ซึ่งในความเห็นของผมแล้วระบบแบบแมนนวลธรรมดาๆ ง่ายๆ แบบนี่นี้แหละ ปลอยภัยสุดผมว่ามนุษย์สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนได้มากกว่าระบบปฏิบัติการณ์สมองกลอะไรทำนองนั้น



///////////

บรรยากาศของสถานีห้างฉัตรให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าบ้านของใครสักคน ทุกอย่างดูเรียบง่ายและงดงาม งามในแบบของผมคืองามในแง่ของการที่ไม่ต้องตกแต่งให้เยอะจนเกินไป พอเหมาะพอดีโต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ดูน่านั่งมากขึ้นเมื่อยามสะท้อนแสงเลาๆ ของยามเย็นแค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกว่าสถานีรถไฟนี้เป็นมิตรมากกว่าสถานีรถไฟที่เป็นอาคารสมัยใหม่แต่ดันใส่เสาแบบกรีกโรมันอะไรนั่นเป็นล้านเท่า เราไม่ได้นัดแนะอะไรกับทางสถานี เจ้าหน้าที่สถานีคนหนึ่งลุกขึ้นมาด้วยท่าทีประหลาดใจทันทีที่รู้ว่ามีคณะนักท่องเที่ยวแวะมาเยือนเจ้าหน้าที่คนนั้นยังใส่ชุดแบบไพรเวทสบายๆ ...ก็แล้วทำไมจะต้องแคร์ไม่เห็นต้องใส่ชุดราชการให้วุ่นวาย เพราะรถไฟกว่าจะผ่านก็อีกยาวนานผมเห็นหลายสถานีก็เป็นแบบนี้ และก็ไม่ได้รู้สึกแย่อย่างไร เพราะนั่นคือความสบายส่วนตัวของเค้า เราไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไร ตราบใดที่เค้ายังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดเมื่อถึงเวลา อาจารย์บอกกับเจ้าหน้าที่สถานีว่าจะพาพวกผมมาดูระบบการทำงานของรถไฟไทย ไล่มาตั้งแต่การรับส่งข้อมูล การจัดการกับห่วงทางสะดวกและที่ทำเอาพวกผมตื่นเต้นมาก คือพี่เจ้าหน้าที่ลงทุนสาธิตวิธีการสับรางทั้งๆ ที่นั่นคือการกระทำที่ผิดกฏการรถไฟอย่างยิ่งก็ตาม นายสถานีที่เพิ่งกลับจากไปตัดผมปั่นจักรยานเข้ามายังสถานี พวกผมกล่าวทักทาย ดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว เค้าเป็นคนหนุ่มที่อนาคตยังอีกยาวไกลนายสถานีรับรู้เรื่องราวและเหตุผลที่เรายกพวกมาเยี่ยมเยือนบ้านหลังเล็กของพวกเค้าหลังนี้ ก่อนจะบอกว่า ถ้ารออีกนิด รถไฟจะผ่านสถานีเราจะได้เห็นการรับ-ส่งห่วงทางสะดวกกันแบบเต็มตา

//////////

ระหว่างนั้นผมได้รับรู้เรื่องราวบางอย่าง ที่ทำให้ผมสะท้อนใจลึกๆอีกไม่นานสถานีนี้จะต้องปิดตัวลง...สถาปัตยกรรมการฉลุไม้ของสถานีแห่งนี้กำลังจะถูกเสนอชื่อเพื่อให้ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นของสมาคมสถาปนิกสยามนายสถานีบอกว่าสถานีแห่งนี้แทบไม่มีงบประมาณในการบำรุงดูแลรักษาตกลงมาถึง ต้นไม้ต่างๆ ที่ประดับสถานี้นั้น ล้วนเป็นการลงทุนลงแรงโดยส่วนตัวของนายสถานีทั้งสิ้น การซ่อมบำรุงครั้งล่าสุดถูกจัดการโดยคนนอกที่ไม่เห็นคุณค่าของงานสถาปัตยกรรมที่อยู่คู่เส้นทางรถไฟสายเหนือมาเนิ่นนาน รางรองน้ำฝนจึงถูกตอกลงบนไม้แกะสลักลายฉลุเก่าแก่ ฟังแล้วน่าใจหายยิ่งได้รู้ว่าอีกไม่นานสถานีแห่งนี้จะต้องปิดตัวลง และถูกปล่อยทิ้งร้างหรือไม่แน่ว่าตัวสถานีอันทรงคุณค่าหลังนี้จะต้องถูกรื้อ อาจหลงเหลือไว้แค่เพียงความทรงจำบางอย่าง ที่รอคอยกาลเวลาพัดพาให้มันเลือนหายไปจากความทรงจำสักวันหนึ่ง

//////////

ขบวนรถไฟสายเหนือต้นทางจากเชียงใหม่กำลังจะผ่านตัวสถานีเสียงหวูดดังกึกก้องบอกให้เราทุกคนรู้ว่า ได้เวลาตั้งกล้องจับจองช๊อตที่เด็ดที่สุดแล้ว
รถไฟผ่านไปอย่างเร็วไว้ ทิ้งไว้แค่ห่วงทางสะดวกจากสถานีก่อนหน้าเอาไว้ที่เสาเล็กๆ ข้างรางรถไฟหลายคนใช้เวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดถ่ายรูปเก็บบรรยากาศแสงสุดท้ายของวัน ณ สถานีแห่งนี้ ผมแยกตัวออกมาจากกลุ่มคน เดินไปยังสุดทางของตัวสถานีป้ายสถานีห้างฉัตรสีขาวสัญลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่านี่คือสถานีรถไฟยังคงตั้งเด่นเป็นสง่าท้าทายกาลเวลาที่หมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว นายสถานีบอกกับพวกเราว่า อีกไม่นานเค้าคงลาออกเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปหากไม่มีสถานีอยู่แล้วอยู่ดีๆ น้ำตาผมก็ไหลออกมา นึกแปลกใจตัวเอง ว่าที่ผมร้องไห้ผมร้องไห้ให้กับอะไรกันแน่ ร้องไห้ให้กับความทรงจำบางอย่างที่กำลังจะต้องพังทลายลงไปในไม่ช้าร้องไห้ให้กับตัวสถานีที่ในอีกไม่นานนี้อาจจะต้องหายไปกับตาร้องไห้ให้กับทุกชีวิตที่เคยมีความทรงจำร่วมกับตัวสถานีแห่งนี้หรือผมแค่ร้องไห้ให้กับแสงสีส้มทองเรืองรองในยามเย็นที่กำลังทาบทาเหลี่ยมมุมภูเขาเบื้องหน้าเป็นมิติลึกลงไปไม่รู้เหมือนกันเท่าที่รู้ กว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งผมอาจจะไม่เห็นที่นี่อีกต่อไปแล้วก็ได้


ที่มาเนื้อความทรงจำ สถานีรถไฟห้างฉัตร http://heyboibz.exteen.com/20101123/entry





ข้อความเนื้อหาทั้งหมดได้มาจากการประสมประสาน ของผู้ที่ได้ทำมาก่อน จากหลายๆที่มารวมกัน เหมือนแกงโฮะ มีทั้งข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็น ก่อนเชื่อควรใช้วิจารณาญาณเสียก่อน